​

ประวัติร้าน "ฉัตรทองไหมไทย" เริ่มต้นในสมัยที่คุณยายทวดทอง กองเมืองปัก เริ่มทำธุรกิจทอผ้าไหมเมื่อยังเป็นสาวในประมาณปี พ.ศ. 2459 โดยใช้เทคนิคการทอแบบดั้งเดิมของชาวไทยโบราณ โดยเฉพาะการใช้กี่เล็ก (มือช่วยในการสอดกระสวย) ประมาณ 3 หลังในกระบวนการทอผ้าไหม ลูกสาวหรือคุณยายแทว นัดเมืองปัก เป็นผู้ช่วยในการทอผ้า ลูกค้าในสมัยนั้นมักอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเช่น อ.สีคิ้ว อ.เมือง นครราชสีมา และจังหวัดขอนแก่น ผ้าไหมที่ทำขายมักเป็นผ้าไหมมัดหมี่และผลิตจำนวนไม่มาก

หลังจากนั้นเมื่อคุณยายแทว นัดเมืองปัก แต่งงานและเริ่มครอบครัวของตน คุณยายจึงตัดสินใจจะตั้งธุรกิจทอผ้าไหมในชื่อตนเอง จำนวนทอมือประมาณ 40 กี่ และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นกี่ 200 กี่ ลูกค้าโดยส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ อุบล และขอนแก่น

ในปีพ.ศ. 2519 คุณยายแทว นัดเมืองปัก ตั้งบ้านใหม่และมอบหมายให้คุณพวงทอง นวลศรี เป็นผู้สืบทอดธุรกิจทอผ้าไหม ชื่อร้านได้เปลี่ยนจากเดิม "พวงทองไหมไทย" เป็น "ฉัตรทองไหมไทย" เนื่องจากวันที่ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม 2519 ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล ซึ่งถูกแนะนำในฐานะผู้ผลิตผ้าไหมที่ผลิตมีคุณภาพสูงและสวยงามตรงกับความต้องการของลูกค้า

ในปี พ.ศ. 2530 คุณวชิราพรรณ นวลศรี เป็นผู้สืบทอดกิจการทอผ้าไหมจากคุณพวงทอง นวลศรี และจัดตั้งบริษัทเป็น "บริษัท ฉัตรทองไหมไทย จำกัด" ซึ่งเป็นรูปแบบที่ยั่งยืนและเติบโตของธุรกิจผ้าไหมไทยต่อไป

               ผ้าไหม และ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากผ้าไหม ของเรา ได้รับการยอมรับถึงคุณภาพที่ได้มาตรฐาน การออกแบบดีไซน์ที่นำสมัยอยู่เสมอและมีความสวยงามโดดเด่น มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เป็นที่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าที่ ชื่นชอบและนิยมในการสวมใส่ผ้าไหมโดยทั่วไปและในปีนี้ ผลิตภัณฑ์ ผ้าไหมของเราได้รับคัดเลือกจาก โครงการ คัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทยให้เป็นผลิตภัณฑ์ ระดับ 5 ดาว (OTOP 5 ดาว)

​

เนื่องจากความต้องการในผ้าไหมมีการเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็มีความท้าทายเกิดขึ้นเมื่อช่างทอผ้าที่มีฝีมือดีๆ เริ่มมีอายุมากขึ้น ซึ่งทำให้ฝีมือที่มีคุณภาพสูงนั้นสามารถใช้งานได้น้อยลง เพราะฉะนั้น ร้าน "ฉัตรทองไหมไทย" จึงต้องปรับตัวโดยการลดจำนวนการผลิตสินค้าลง และเลือกที่จะกลับไปทำการทอผ้าในขั้นตอนแรกของการก่อตั้งธุรกิจอีกครั้ง

การลดจำนวนการผลิตสินค้านี้ได้ทำให้ร้านมีเวลามากขึ้นในการเอาใจใส่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และความพึงพอใจของลูกค้า โดยพัฒนาการทอผ้าให้มีคุณภาพสูงและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม

การกลับมาทำการทอผ้าในบ้านแบบดั้งเดิมอีกครั้ง นอกจากจะเพิ่มคุณภาพของสินค้าและบริการ ยังเสริมความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าผ้าไหมจาก "ฉัตรทองไหมไทย" ยังคงมีมาตรฐานสูงและความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เสียหายไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา